นพ ศิษย์เก่าโครงการ Co-creation ที่ CDG Group ได้ผสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) บางมด เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สมัครเข้าร่วมฝึกประสบการณ์และส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้บรรยากาศทำงานจริงในองค์กรระหว่างเรียน สู่การบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำในตำแหน่ง System Analyst และตำแหน่ง Inventor ภายใต้หน่วยงาน Digital Excellent
เริ่มต้นจากนักศึกษาฝึกงานที่มาพร้อม Mindset ที่เปิดกว้างจะเรียนรู้งานทุกสิ่ง พร้อม Say Yes เปิดให้ตัวเองได้ทำความรู้จักทักษะรอบด้านมากที่สุด แม้จะไม่ใช่สายงานหรือทักษะที่ศึกษาโดยตรงมาจากรั้วมหาวิทยาลัย แต่นพพร้อมจะเปิดใจที่จะทำความรู้จักงาน เรียนรู้ฝึกฝนผ่านการทำงานจริง โดยนพเล่าว่า “เริ่มจากการฝึกงานกับ CDG ในโครงการ Co-Creation ระหว่างฝึกงานเป็นระยะเวลา 6 เดือน ได้ร่วมทำโปรเจกต์กับพี่ๆในบริษัท เสมือนได้ลองทำงานจริง และยังได้รวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 2 คนเข้าแข่งขันโครงการ Innovation Challenge 2022 ที่จัดโดย CDG Group และบริษัทในเครือ มีพี่ๆ CDG Group ช่วยทำหน้าที่เป็น Mentor ให้คำปรึกษาใกล้ชิดตลอดกิจกรรม สู่การส่งผลงานไอเดีย Solution เข้าประกวดดังกล่าว ด้วยผลงาน “Thai ID Card Image Reader” ซึ่งสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครองได้อีกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกและได้ใช้ทักษะที่หลากหลายทั้งการ Research คิดค้นระดมสมองร่วมกับทีม และการพัฒนาศึกษา AI เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา เสนอ Solution ดังกล่าว”
CDG ในมุมมองของนพ
หลังจบโครงการฝึกประสบการณ์ นพและเพื่อนทั้งทีม ได้รับโอกาสบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำ และเริ่มทำโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้อง และล่าสุด กับอีกตำแหน่งและบทบาทที่เข้ามาท้าทาย นพย้ายมาในส่วนงาน Digital Excellent ตลอดช่วงการทำงาน แม้จะยังเป็นน้องใหม่ในทีม นพเองเล่าว่า “บรรยากาศการทำงาน และสิ่งแวดล้อมของ CDG ทำให้นพปรับตัวได้ไม่ยาก ความกระตือรืนร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆของตัวนพเอง และความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ปัจจัยที่สำคัญ คือ สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร เพื่อนร่วมงานน่ารัก พี่ๆที่คอยให้ความช่วยเหลือทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น นพสามารถจัดสรรเวลารับผิดชอบงานและยังบาลานซ์การใช้ชีวิตในพาร์ทส่วนตัวได้อย่างลงตัว เพราะเพื่อนที่ทำงานและสังคมที่ทำงาน เหมือนเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสังคมในชีวิตจริงด้วย
นอกจากให้สังคมการทำงานที่ดี ยังมี Work Life Balance ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานสไตล์คนรุ่นใหม่
นพเล่าว่า “นอกจากพาร์ทการทำงานที่ท้าทาย ได้ลองทำงานหลากหลายแล้ว กิจกรรมหลังเลิกงานกับพี่ๆ ใน CDT ก็สนุกและอบอุ่นด้วย ผมมีรวมทีมไปสังสรรค์ ไปเล่นกีฬาหลังเลิกงานกัน มีการตั้งกลุ่มตีแบด ชื่อ CDG แบดมินตัน ป๊อกแป๊ก ตอนนี้ล่าสุดมีสมาชิกแล้วกว่า 58 คนที่หมุนเวียนมานัดร่วมกลุ่มเล่นแบดกันครับ” นพรับบทตัวตั้งตัวตี Set Agenda และโหวตช่วยกับเพื่อนเพื่อหาสนามแบดใกล้ CDG House ชวนไปออกกำลังกาย ได้สุขภาพดีหลังเลิกงาน และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับทีมงานในบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ที่ CDG Group ของเรายังมีวงดนตรี หลังเลิกงาน ถ้าวันไหนมีเวลาว่าง เรานัดซ้อมดนตรีกันครับ แถมล่าสุดพี่ Manager ยังช่วยสนับสนุนกีต้าร์ไฟฟ้าให้ทีมมาใช้ฝึกฝนกันอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมส่วนนี้ทำให้เรามองเห็นมุมมองด้านอื่นๆ นอกจากในฐานะเพื่อนร่วมงาน ตรงนี้ยอมรับว่าทำให้เรามี Empathy มองเห็นความแตกต่างและเข้าใจกันมากขึ้น เมื่อต้องทำงานประสานงานร่วมกัน มี Active Listening ให้กัน และที่สำคัญยังสามารถนำมาต่อยอดพัฒนา และร่วมมือกัน ขับเคลื่อนสร้างสรรค์งานนวัตกรรม (Be Innovative) ได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก
นพเล่าเสริมว่า “ร่วมงานกิจกรรมต่างๆของบริษัทไม่เคยขาด แม้แต่ตอนโอกาสครบรอบ 55 ปี ของ CDG Group ผมยังได้ขึ้นไปร้องเพลงด้วย กีฬาสีผมลงทุกกีฬา ยกเว้นชักเย่อนะ แต่แพ้ชนะตกรอบไหมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” เรียกว่า กิจกรรมของ CDG ทั้งพาร์ทการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวสามารถบาลานซ์กันได้ลงตัว เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนที่อยากมี Work Life Balance แบบผมเป็นอย่างมาก”
พร้อมมุ่งมั่น ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเสมอ (Driven)
“ส่วนตัวผมมองว่า ผมยังเป็นน้องใหม่ที่เข้ามาทำงานไม่นาน ผมขอตั้งเป้าหมายในใจของตัวเองที่จะไม่หยุดมุ่งมั่น เปิดโอกาสให้ตัวเอง พร้อมรับทุกโอกาสและความท้าทาย อย่างที่บอกไปว่า ไม่ว่างานอะไรเข้ามาพร้อมจะลองทำครับ” เรียกว่านพเองไม่หยุดก้าว มุ่งหน้าเติบโต (Driven) และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ (Be Innovative and Adaptive) ทั้งในพาร์ทของ Be innovative ผมเชื่อว่า ถ้าเมื่อไหร่เราหยุดนิ่ง ไม่ Research มองหาเรียนรู้สิ่งใหม่ เท่ากับว่าเรากำลังถอยหลัง ไม่มีอะไรอยู่ได้ตลอดไปอยู่แล้ว เราเลยต้องพร้อมเสมอ หากมีการเปลี่ยนแปลง ปรับให้ทันกับโลกกับเทคโนโลยีใหม่ เราต้องไปต่อเพื่อให้เราอยู่รอดได้ในทุกยุคทุกสมัย” นพกล่าวทิ้งท้าย
และด้วยตำแหน่งงาน Inventor ที่ผลักดันให้ได้พัฒนาตัวเอง พัฒนางานร่วมกับทีม นพยกตัวอย่างสกิลที่มองว่ามีความสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ การสื่อสาร โดยนพพบว่า การทำงานร่วมกับทีมย่อย ลูกค้า และทีมที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องมีการสื่อสารทำความเข้าใจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้ได้ผลงานที่ตรงใจ ตอบโจทย์ Requirement ของลูกค้าและทำงานร่วมกับทีมได้อย่างดีที่สุด
“สำหรับผมแล้ว เรียกว่า CDG ลงตัวมากครับ เพราะ เป็นสังคมการทำงานที่ทำให้สามารถพัฒนาศักยภาพตัวเอง ให้โอกาสได้เรียนรู้และพัฒนางาน และยังได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ และมี Work Life Balance ตรงตามที่ตามหา สู่ Work Life Integration ที่ดีอีกด้วยครับ”